เกริ่นนำ
อุณหภูมิของแม่พิมพ์ไม่เหมือนกับอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นที่ใหลเข้าแม่พิมพ์ แต่เป็นอุณหภูมิของโพรงแม่พิมพ์ที่แท้จริงหลังจากที่คงที่แล้ว
อุณหภูมิแม่พิมพ์มีผลอย่างมากกับการฉีดและคุณภาพของชิ้นงาน โดยส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงานในหลายๆ ด้าน เช่นการแข็งตัวพลาสติก การหดตัว อาจมีผลทั้งทางบวกและทางลบ
อุณหภูมิแม่พิมพ์มีผลกับการฉีดและชิ้นงานดังนี้
การหดตัวของชิ้นงาน ชิ้นงานจะเย็นเร็วแค่ไหน ความเครียดจะตกค้างอยู่ในชิ้นงานมากน้อยเพียงใด พื้นผิวของชิ้นงานที่ขึ้นรูป
อุณหภูมิแม่พิมพ์ที่สูงขึ้นจะเพิ่มระดับความเงาของผิวชิ้นงาน
ปัญหาที่พบ
ชิ้นงานหดตัว แข็งตัว ไม่คงที่ ผิวขุ่น ไม่เงา ปรับแก้แล้วไม่หาย
อุณหภูมิแม่พิมพ์ต้องคงที่และสามารถควบคุมได้เป็นสิ่งสำคัญเกทควรเป็นที่แรกเสมอพลาสติกจะแข็งตัว
สิ่งที่ควรระวังและสังเกตุ
step 1
อุณหภูมิของแม่พิมพ์ที่สูงขึ้น
หากอุณหภูมิของแม่พิมพ์เปลี่ยนแปลงด้วยเหตุใดก็ตามตลอดช่วงเวลาของการผลิตชิ้นงาน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการหดตัวของชิ้นงานที่ขึ้นรูป
อุณหภูมิของแม่พิมพ์ที่สูงขึ้นจะนำไปสู่การหดตัวของชิ้นงานภายหลังที่สูงขึ้น แต่ชิ้นงานมีเสถียรภาพมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม หากอุณหภูมิของแม่พิมพ์เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่เพิ่มเวลาการฉีดแช่ให้สอดคล้องกัน อาจทำให้มีการไหลย้อนกลับของพลาสติกจากแม่พิมพ์กลับเข้าสู่ทางวิ่ง(Runner) ทำให้เกิดการหดตัวที่ไม่แน่นอนได้
step 2
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้นของสภาพแวดล้อม
ผลของชิ้นงานกับเวลาหล่อเย็น
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้นของสภาพแวดล้อมสามารถทำให้เกิดความผันผวนของอุณหภูมิของแม่พิมพ์ในระหว่างรอบการผลิต
หากใช้ระบบหล่อเย็นส่วนกลางในการระบายความร้อนเครื่องฉีดพลาสติกหลายเครื่อง อุณหภูมิโดยรวมของระบบหล่อเย็นกลางจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องฉีดพลาสติกที่ทำงาน ณ เวลานั้น และอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
การใช้ระบบหล่อเย็นส่วนกลางโดยไม่มีอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิเสริมนั้นจะไม่สามารถควบคุมให้อุณหภูมิแม่พิมพ์คงที่
step 3
การไหลของน้ำหล่อเย็นที่ไม่เพียงพอ
การใช้น้ำหล่อเย็นแบบศูนย์กลาง
การไหลของน้ำหล่อเย็นที่ไม่เพียงพอหรือเส้นทางการไหลยาวเกินไปอาจทำให้อุณหภูมิของแม่พิมพ์ผันผวนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสภาวะสมดุล
จากนั้นการทำงานของรอบเวลาในการฉีดพลาสติกจะทำให้เกิดความผันผวนของอุณหภูมิแม่พิมพ์อย่างมาก
step 4
ภาระการทำความเย็นที่ต่างกัน
ภาระการทำความเย็นที่ต่างกัน การหล่อเย็นในแต่ละส่วนอาจมีความต้องการที่แตกต่างกัน
เนื่องจากส่วนที่ใกล้เคียงกับเกทหรือส่วนที่มีความแตกต่างของความหนาบางชิ้นงานที่ขึ้นรูป อาจต้องการให้บางพื้นที่ของแม่พิมพ์ต้องการการหล่อเย็นมากขึ้น
เพื่อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการทำความเย็นทุกส่วนของชิ้นงานที่ขึ้นรูปด้วยอัตราที่มีการหล่อเย็นที่เท่ากัน
step 5
อัตราการไหลของน้ำผ่านแม่พิมพ์ควรสูงพอ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อัตราการไหลของน้ำผ่านแม่พิมพ์ควรสูงพอที่จะทำให้กระแสน้ำไหลวนแรง
การที่น้ำไหลวนแรงจะทำให้เกิดการปั่นป่วนของน้ำในช่องระบายความร้อนอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำที่ผนังของช่องระบายความร้อนมีอุณหภูมิเท่ากับน้ำที่อยู่ตรงกลางช่องระบายความร้อน ช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากอุณหภูมิขาเข้าและอุณหภูมิขาออกของน้ำแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าการอัตราการไหลของน้ำเย็นไม่เพียงพอ
step 6
ท่อน้ำเข้าแม่พิมพ์ใหญ่พอหรือไม่?
ท่อน้ำเข้าแม่พิมพ์ใหญ่พอหรือไม่? หากแม่พิมพ์มีช่องระบายความร้อนที่ใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อน้ำเข้าหรือข้อต่อ แสดงว่าการไหลของน้ำหล่อเย็นถูกปิดกั้นและทำให้การระบายความร้อนของแม่พิมพ์ไม่เพียงพอ
ในการทำงานผลิตชิ้นงานที่สำคัญมีความเที่ยงตรงสูง อาจต้องใช้การควบคุมอุณหภูมิน้ำในแต่ละโซนที่ทำความเย็นเข้ามาช่วยเพื่อให้อุณหภูมิในแต่ละโซนคงที่
โซลูชั่นแก้ปัญหา
การควบคุมอุณหภูมิแม่พิมพ์นอกจากการระบายความร้อนออกจากแม่พิมพ์ด้วยหน้ำหล่อเย็นแล้ว ในการผลิตชิ้นงานบางประเภทต้องการใช้แม่พิมพ์ที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ให้ความร้อนแทนความเย็นซึ่งเรียกว่า
อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิแม่พิมพ์ ( Mold Temperature Controller)
Mold Temperature Controller
โดยอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิแม่พิมพ์ มีหลายแบบ เช่นใช้น้ำเป็นตัวพาความร้อนจากเครื่องไปสู่แม่พิมพ์ซึ่งจะใช้ความร้อนได้ต่ำกว่า 100 องศาเซนเซียส หากจะใช้ความร้อนที่สูงกว่า 100 องศาเซนเซียสขึ้นไปต้องเลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้น้ำมันเป็นตัวพาความร้อนเนื่องจากมีจุดเดือดที่สูงกว่าน้ำ
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการเทสสินค้า ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของบริษัทประทานกิจฯ พร้อมยินดีให้บริการช่องทางในการติดต่อLINE: @patankit-vhoTel: 02-869-8970-5